เกร็ดความรู้มาฝากกันค่ะ
#ต้นไม้ของเราก็ต้องการอาหารในการเจริญเติบโตเช่นเดียวกับมนุษย์เรานั่นแหละคะ เพียงแต่ไม่สามารถพูดหรือร้องบอกเราได้ว่าต้องการอะไร หรือกำลังป่วยเป็นอะไร โดยต้นไม้จะมีการแสดงอาการที่แตกต่างกันออกมาตาม ใบ ลำต้น หรือส่วนต่างๆ ขึ้นอยู่กับธาตุอาหารชนิดที่ขาดไป ต้นไม้ใบเหลือง
#โดยมีรูปแบบอาการขาดธาตุอาหารคร่าวๆ ดังนี้
อาการที่ใบล่างหรือใบแก่ก่อน แสดงว่าธาตุนั้นมีการเคลื่อนย้ายได้ดีในพืช เช่น โพแทสเซียม (K) แมกนีเซียม (Mg) มักพบอาการที่ปลายใบก่อนตามมาที่ขอบใบจึงลุกลามเข้ากลางใบ สีใบจะเริ่มเหลืองแล้วเปลี่ยนเป็นน้ำตาล
อาการที่ใบบนหรือใบยอดก่อน แสดงว่าธาตุนั้นไม่มีความสามารถในการเคลื่อนย้ายภายในพืช คือเคลื่อนย้ายจากในล่างสู่ใบบนไม่ได้ ได้แก่ แคลเซียม (Ca) โบรอน (B)
อาการเกิดที่ใบทั่วลำต้น เกิดทั้งใบแก่และใบอ่อน แม้ว่าใบแก่จะแสดงอาการมากกว่า แต่อาการไม่แสดงชัดเจนก็ตาม ได้แก่ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส(P) และกำมะถัน (S)
#อาการขาดธาตุอาหารของต้นไม้
ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของผู้ปกครองอย่างเราๆ ที่จะต้องคอยคุยกับเขาด้วยสายตาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อดูว่าเขาต้องการอะไร ซึ่งอาการที่พบบ่อยที่สุดของการขาดสารอาหาร คือการเจริญเติบโตและการเปลี่ยนสีของใบ โดยตำแหน่งของอาการขึ้นอยู่กับการเคลื่อนย้ายของสารอาหารภายในพืช มีลักษณะอาการเบื้องต้นให้เราได้พอสังเกตกันดังต่อไปนี้ค่ะ
1 #พืชโตช้า ต้นแคระแกรน ใบมีสีเหลือง
อาการขาดธาตุอาหารของต้นไม้ ต้นไม้ใบเหลืองต้นไม้ใบเหลือง
อาการขาดธาตุอาหารของต้นไม้ ขาดไนโตรเจน
หากพืชมีอาการโตช้า ต้นแคระแกรน ออกดอกลดลง ผล รากหรือส่วนที่สะสมอาหารมีขนาดลดลง ใบแก่ที่อยู่ตอนล่างของพืช มีสีเขียวจางแล้วกลายเป็นสีเหลืองอ่อน เริ่มซีดจากปลายใบ ถ้ารุนแรงเป็นสีน้ำตาลลามสู่กลางใบเป็นรูปตัววี (V) ใบจะร่วงก่อนกำหนด แสดงว่าพืชขาด ไนโตรเจน
2 #ใบแก่สีม่วงแดง ขอบใบม้วน ผอมสูง ลำต้นบิด
อาการขาดธาตุอาหารของต้นไม้ ขาดฟอสฟอรัส
ใบแก่มีสีม่วงแดงบนแผ่นใบ เส้นใบ และลำต้น ซึ่งจะเห็นได้เด่นชัด ทางด้านใต้ใบจะมีสีเขียวเข้ม ขอบใบม้วนงอไหม้ ต้นโตช้า ผอมสูง พืชบางชนิดอาจมีลำต้นบิดเป็นเกลียว เนื้อไม้จะแข็งแต่เปราะหักง่าย ดอกและผลที่ออกมาไม่สมบูรณ์ หลุดร่วงจากขั้วได้ง่าย ผลมีความหยาบแข็งเพราะมีไฟเบอร์มาก และค่อนข้างจะสุกแก่ช้ากว่าปกติ แสดงว่าขาด ฟอสฟอรัส (P)
อาการขาดธาตุอาหารของต้นไม้ ขาดฟอสฟอรัส
3 #ใบแก่มีสีเหลืองซีด มีจุดสีน้ำตาลไหม้
อาการขาดธาตุอาหารของต้นไม้ ขาดโพแทสเซียม ต้นไม้ใบเหลือง
ใบแก่มีสีเหลืองซีดตามขอบใบ ขอบใบจะม้วนงอ ในเวลาต่อมาขอบใบจะแห้งเป็นมัน มีจุดสีน้ำตาลไหม้ เริ่มจากปลายใบสู่กลางใบ ต้นโตช้า หักล้มง่าย ผลเล็กรูปร่างผิดปกติ สุกไม่สม่ำเสมอ เมล็ดเหี่ยวย่นหรือบิดเบี้ยว ถ้าเป็นมะเขือเทศเนื้อจะเละ เมล็ดธัญพืชมีเมล็ดเล็กลีบ น้ำหนักเบา พืชหัวจะมีแป้งน้อย ใบยาสูบจะมีคุณภาพต่ำ ติดไฟยาก กลิ่นไม่ดี แสดงว่าขาด โพแทสเซียม (K)
4 #ใบสีจุดสีเหลืองทั่วทั้งใบ ปลายใบแห้ง
อาการขาดธาตุอาหารของต้นไม้ ขาดแมกนีเซียม ต้นไม้ใบเหลือง
ใบแก่จะมีอาการมากกว่าใบอ่อน ใบมีจุดประสีเหลืองอยู่ทั่วทั้งใบ เหลืองซีดหรือขาวระหว่างเส้นใบในขณะที่เส้นใบยังคงเขียว ตรงขอบจะมีจุดสีน้ำตาล ปลายใบจะแห้งเป็นสีน้ำตาล บางครั้งมีสีแดงปน ถ้าขาดรุนแรงใบจะแห้งและตาย พืชที่มีใบเล็ก มักโค้งงอขึ้นจากปลายใบ ต้นจะมีขนาดเล็กลงมาก ให้ผลผลิตลดน้อยลงและต้นพืชทรุดโทรมอย่างเห็นได้ชัดกิ่งเปราะหักง่าย ผลแก่ช้ากว่าปกติ แสดงว่าขาด แมกนีเซียม (Mg)
5 #ใบซีด มีจุดด่างกระจาย ใบม้วนเข้าข้างใน
อาการขาดธาตุอาหารของต้นไม้ ขาดโมลิบดินัม
สีใบจางซีดผิดปกติ ใบจะมีจุดด่างกระจายอยู่ทั่วใบแต่เส้นใบยังคงเขียวอยู่ ถ้าขาดรุนแรงพืชจะแสดงอาการใบม้วนเข้าข้างใน ลักษณะที่ปลายและขอบใบจะแห้ง ดอกร่วง และผลมีขนาดเล็กลง ในกะหล่ำดอกจะแสดงอาการดอกหลวมไม่แน่น แสดงว่าขาด โมลิบดินัม (Mo)
อาการขาดธาตุอาหารของต้นไม้ ขาดสังกะสี
จุดเหลืองกระจายในใบแก่คล้ายราสนิมในกลุ่มพืชใบเลี้ยงคู่ เช่น ถั่วฝักยาว ผักกาด ส่วนในพืชใบเลี้ยงเดี่ยวอย่างข้าวโพด ใบจะเหลืองซีดหรือขาวเป็นทางสลับเขียวระหว่างเส้นใบเกิดจากปลายใบสู่โคนใบ ข้อสั้น ตาดอก ตายอดลดลง ข้อปล้องสั้น ใบออกมาซ้อนๆ กัน ให้ผลลดลง แสดงว่าขาด สังกะสี (Zn)
อาการขาดธาตุอาหารของต้นไม้ ขาดทองแดง ต้นไม้ใบเหลือง
อาการขาดธาตุทองแดงพบมากในดินเปรี้ยว ใบพืชจะมีสีเขียวจัดผิดปกติ เวลาต่อมาจะค่อยๆ กลายเป็นสีเหลือง โดยจะแสดงอาการที่ยอดก่อน เรื่อยลงมาจนถึงใบบริเวณโคนต้น ในพืชผักบางอย่างแผ่นใบจะยาวผิดปกติ เช่น ผักกาดหอมจะมีใบที่ย่นและอ่อนตัว แสดงว่าขาด ทองแดง (Cu)
8 #ใบมีขนาดเล็ก ใบอ่อนมีจุดสีขาวหรือจุดสีเหลือง
อาการขาดธาตุอาหารของต้นไม้ ขาดแมงกานีส
ใบมีขนาดเล็กผิดปกติ ไม่สมบูรณ์ ใบจะออกสีเหลืองส่วนเส้นใบเขียวปกติ โดยเฉพาะใบอ่อนอาจเกิดเป็นจุดสีขาวหรือจุดสีเหลือง สำหรับใบข้าวโพดมีแถบสีเหลืองแคบ ๆ ส่วนลักษณะที่แสดงลำต้นคือ ต้นพืชผอม มีขนาดเล็ก พุ่มต้นโปร่งโตช้า ติดผลน้อย ในหัวหอมจะทำให้หัวหอมอ่อนนุ่ม เปลือกบาง สีซีดขาว แสดงว่าขาด แมงกานีส (Mn)
9 #ใบอ่อนเล็กกว่าปกติ มีสีเหลืองระหว่างเส้นใบ
อาการขาดธาตุอาหารของต้นไม้ ธาตุเหล็ก ต้นไม้ใบเหลือง
ยอดอ่อนเจริญเติบโตได้ช้ากว่าปกติ พบในใบอ่อนหรือใบบริเวณส่วนยอดบนก่อน ใบมีขนาดเล็กกว่าปกติ มีสีเหลืองระหว่างเส้นใบ ปลายยอด และขอบใบ ส่วนเส้นใบยังคงเขียว หรือขาวทั้งใบในที่สุด แผ่นใบเล็กหรือหนาขึ้น ขาดรุนแรง ระหว่างเส้นใบเหลืองซีด กิ่งแห้งตาย ให้ผลลดลง ขนาดของผลเล็ก ผิวไม่สวย แสดงว่าขาด เหล็ก (Fe)
10 #พืชชะงักการเติบโต ใบมีสีเหลือง
อาการขาดธาตุอาหารของต้นไม้ ขาดกำมะถัน
ยอดพืชชะงักการเจริญเติบโต ใบมีสีเขียวอ่อนหรือเหลือง คล้ายอาการขาดธาตุไนโตรเจน ขนาดใบเล็กลง แต่จะปรากฏที่ยอดอ่อนก่อน ส่วนใบล่างยังคงปกติ ถ้าอาการขาดรุนแรงใบล่างก็จะมีอาการด้วยเช่นกัน ลำต้นและกิ่งก้านลีบเล็ก ซึ่งดินที่มักพบขาดธาตุกำมะถัน (S) มักเป็นดินทรายเนื่องจากมีอินทรียวัตถุน้อย แสดงว่าขาด กำมะถัน (S)
11 #ใบอ่อนไม่คลี่ออกจากกัน ใบบิดเบี้ยว ม้วนงอไปข้างหน้า
อาการขาดธาตุอาหารของต้นไม้ ขาดแคลเซียม
ใบอ่อนไม่คลี่ออกจากกัน ใบบิดเบี้ยว ม้วนงอไปข้างหน้าและขาดเป็นริ้วๆ บางครั้งขอบใบหยักเป็นคลื่นขนาดเล็กลง ใบเหลือง มีจุดประขาวอยู่บนใบส่วนยอด ดูคล้ายอาการยอดด่าง ก้านใบแตก ตาใบและดอกร่วงเร็ว รากผิดปกติ ลำต้นอ่อนแอ แสดงอาการในต้นอ่อน ถ้าเป็นที่ขึ้นฉ่ายเรียกโรคไส้ดำ ในมะเขือเทศทำให้ผลเป็นก้นจุดที่ท้ายผลและเน่าในที่สุด แสดงว่าขาด แคลเซียม (Ca)
12 #ยอดใบไหม้ โตช้า
อาการขาดธาตุอาหารของต้นไม้ ขาดโบรอน
อาการขาดธาตุนี้จะเห็นเด่นชัดเมื่อต้นพืชกระทบแล้งหรือขาดน้ำมากๆ โดยยอดและใบอ่อนไหม้ ส่วนที่ยอดและตายอดจะบิดงอ โตช้า ร่วงหลุดง่าย ใบอ่อนบางผิดปกติ เส้นกลางใบหนากร้าน ขอบใบเหลืองปนน้ำตาล ใบหนา ม้วน ย่น ใบช้ำคล้ายน้ำร้อนลวก ลำต้นอาจแตกเปราะ มีสารเหนียวๆ ออกมาตามเปลือกของลำต้น ไส้กลวง กิ่งก้านแลดูเหี่ยว ดอกผสมไม่ติด ผลมักบิดเบี้ยว ผลเล็กและผิวขรุขระ หยาบ หนาและแข็งผิดปกติ บางทีผลแตกเป็นแผลหรือไส้กลวงได้ แสดงว่าขาด โบรอน (B) โดยผักที่มักขาดธาตุโบรอน (B) ได้แก่ กลุ่มผักสลัด เช่น สลัดคอส, บัตเตอร์เฮด ฯลฯ ในพืชหัว เช่น ผักกาดหัว ใบจะเป็นจุดๆ ในกะหล่ำดอกและบรอคโคลีทำให้ดอกจะเป็นสีน้ำตาล
#เมื่อทราบลักษณะอาการขาดธาตุอาหารของพืชในเบื้องต้นแล้ว #ก็ลองออกไปสังเกตดูลูกๆ #ที่รักของเรา #จะได้ใส่ปุ๋ยได้ถูกต้อง #แต่อย่าใส่มากเกินไปนะคะ…#เดี๋ยวจะกลายเป็นพืชได้รับธาตุอาหารมากเกินไป #แล้วเกิดลักษณะอาการผิดปกติ #จะเสียเวลาต้องมานั่งหาอีกว่าต้นไม้ของเราเป็นอะไรกันอีก #ซึ่งก็จะมีอาการที่แตกต่างกันออกไปเช่นกัน #ส่วนอาการที่พืชจะแสดงออกมาเมื่อได้รับธาตุอาหารมากเกินไปจะมีลักษณะเป็นอย่างไรกันบ้างนั้น #คราวหน้าเราจะมีมาฝากทุกคนกันค่ะ
ข้อมูลจาก internet
Kommentare