
กระดิ่งนางฟ้า หรือ ไคร้ย้อย เป็นพันธุ์ไม้หอมยืนต้นมีดอกสวยสีชาวอมชมพูน่ามองที่คนในปัจุบันเริ่มกลับมานิยมซื้อไปปลูกในบ้านและสวนหย่อม ตั้งแต่ปีก่อน จนถึงปัจจุบันกระแสความนิยมต้นไม้มงคลมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มมากขึ้นและต้นกระดิ่งนางฟ้าก็เป็นหนึ่งในพันธุ์ไม้ที่มีความต้องการ ข้อมูลทั่วไปของต้นกระดิ่งนางฟ้า ชื่อภาษาไทย : กระดิ่งนางฟ้า, ไคร้ย้อย, ดอกโชค, สารภีน้ำ
ชื่อภาษาอังกฤษ : Khrai yoi
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Elaeocarpus grandiflorus J. E. Sm.
ชื่อวงศ์ : ELAEOCARPACEAE
ชื่ออื่นๆ : สารภีน้ำ จิก ดอกปีใหม่ ดอกดโชค แต้วน้ำ ปูมปา คล้ายสองหู มุ่นน้ำ
ลักษณะทั่วไปของต้นกระดิ่งนางฟ้า

ลำต้น ต้นกระดิ่งนางฟ้าเป็นไม้ไม่ผลัดใบ มีความสูง 5-30 เมตร เรือนยอดแตกกิ่งแผ่กว้างเป็นพุ้มใบทึบ กิ่งอ่อนมีสีเขียวผิวเรียบ เปลือกลำต้นเป็นสีน้ำตาลอบเทา มีผิวเรียบหรือหยาบเล็กน้อย มีโครงสร้างกิ่งยาวเน้นยืดให้สูง ในต้นที่ใหญ่มากๆ จะเป็นเหมือน หลายๆต้นมาอยู่ด้วยกันจนมีขนาดใหญ่นั้นเกิดจากลำต้นที่แตกออกมาจากรากที่โผล่พ้นขึ้นมาจากหน้าดิน แต่ถ้าไปเจอแถวน้ำตกก็จะมีขนาดที่ใหญ่จนถึงใหญ่มาก มีระบบรากที่แข็งแรง ยึดเกาะหน้าดินดี

ดอก ดอกกระดิ่งนางฟ้ามีสีขาวอบชมพู มีกลิ่นหอม ออกเป็นช่อแบบช่อกระจะ ห้อยลง ออกตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ยาว 6-10 ซม. กลีบเลี้ยง 5 กลีบ รูปใบหอกสีขาวอมเหลือง หรือบางต้นอาจเป็นสีชมพูเข้มจนถึงสีแดง กลีบดอก 5 กลีบ รูปไข่กลับมีขนประปรายทั้งสองด้าน โคนกลีบดอกด้านมีกลุ่มขนเรียงตัวเป็นสองแถว ปลายกลีบเป็นริ้วละเอียด รังไข่ป้อมมีขนสั้นคลุมแน่น ดอกบานเต็มที่กว้าง 2-2.5 ซม. ส่งกลิ่นหอมเย็นๆ

ความเชื่อ ในตอนนี้หากมีใครสักคนที่กำลังมองหาต้นไม้ดีๆสักต้นเพื่อเอาไปปลูกในบ้านนั้น หังข้อแรกที่จะต้องรู้ก่อนคือ ความเป็นมงคล โดยความเชื่อนี้มีมาอย่างยาวนาน คนเฒ่าคนแก่เล่าว่าต้นกระดิ่งนางฟ้านั้นเดิมทีชื่อว่า “ดอกโชคหรือไคร้ย้อย” แต่ในปัจจุบันคนมักรู้จักกันในชื่อ “กระดิ่งนางฟ้า” เชื่อว่าถ้าปลูกแล้วแล้วมีดอกออกเมื่อมีลมพัดมาดอกจะสั่นไหวไปมาเหมือนกระดิ่ง ช่วยเรียกโชค เรียกทรัพย์เข้ามาหาคนในบ้านหรือผู้ที่ปลูก
ลักษณะทั่วไปของต้นกระดิ่งนางฟ้า

การบำรุงดูแลต้นกระดิ่งนางฟ้า เราต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าธรรมชาติของต้นกระดิ่งนางฟ้าในธรรมชาติ จะอยู่ในป่าที่มีความชื้น สามารถอยู่ตามริมฝั่งแม่น้ำโดยที่รากอยู่ในน้ำก็ได้ งั้นเรามาดูปัจจัยสำคัญในการดูแลต้นกระดิ่งนางฟ้ากันดีกว่า
ดิน : ดินร่วนชุ่มชื้น อินทรียวัตถุสูง
แสงแดด : ตลอดวัน
น้ำ : ปานกลาง-มาก
ปุ๋ย : อาจจะใช้เป็นปุ๋ยหมักมูลขี้วัวขี้ไก่ขี้ไส้เดือน หรือระยะแรกใช้เป็นปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ เช่นสูตร 15-15-15, 20-20-20 เป็นต้น แล้วเมื่อต้นโตได้สักระยะก็เปลี่ยนมาเป็นสูตรกลางสูง เช่นสูตร 15-30-15, 12-24-12 เป็นสูตรปุ๋ยเร่งดอก
โรคและแมลงศัตรูพืช : ไม่ค่อยเป็นโรค แต่จะมีหนอนบ้าง แนะนำให้ใช้น้ำควันส้ม หรือน้ำหมักสมุนไพรไล่แมลง
ปลูกบริเวณไหนของบ้านดี ขึ้นชื่อว่าเป็นต้นไม้มงคล ทุกคนคงอยากจะรู้กันว่าการจะเอาต้นกระดิ่งนางฟ้าไปปลูกบริเวณไหนของบ้านจะดี จะเสริมความสิริมงคลให้กับตัวเองได้มากที่สุด แต่เราจะแบ่งเป็น 2 ปัจจัยคือ ปลูกเอาความมงคล : เราแนะนำให้คุณปลูกบริเวณหน้าบ้าน หรือหากบ้านของคุณมีบ่อน้ำก็สามารถเอาต้นกระดิ่งนางฟ้าไปปลูกใกล้ๆได้ เพราะการเอาไว้หน้าบ้านเป็นการเรียกโชค เรียกทรัพย์ให้เข้าบ้าน แต่แนะนำอย่าปลูกใกล้ตัวบ้านมากนัก เพราะรากของต้นกระดิ่งนางฟ้าค่อนข้างแร็งแรง ชอนไชไปรอบๆเพื่อหาน้ำ ดังนั้นรากอาจจะสร้างความเสียหาได้ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความใหญ่ของต้นไม้ด้วย หากเป็นต้นเล็กก็ไม่มีปัญหาอะไร
หรืออาจจะปลูกในกระถางก็ได้ เช่นกระถางดินเผา และ Air pot ก็จะดี เพราะเป็นกระถางที่ระบายอากาศได้ดีทำให้ต้นไม้โตไว
ปลูกตามสภาพแวดล้อม : ถ้าสภาพแวดล้อมบ้านติดกับแม่น้ำ หรือเป็นบ้านสวนซึ่งมีพื้นที่เยอะ คุณอาจปลูกไกลจากตัวบ้านสัก 4-5 เมตร ปลูกแบบลงดิน ให้เป็นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา หรือปลูกไว้ริมตลิ่งน้ำก็ดีเพราะต้นกระดิ่งนางฟ้าสามารถอยู่กับน้ำได้ และยังสามารถช่วยลดปัญหาการพังทะลายของหน้าดินอีกด้วย